เฟร็ด ชีวประวัติ เส้นทางสู่การเป็นนักฟุตบอลอาชีพ แนวคิด แรงบันดาลใจ

เฟร็ด

เฟร็ด

เฟร็ด เขาเข้าร่วมทีมกับทีมแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด โดยเล่นในตำแหน่งกองกลาง เขาเกิดเมื่อวันที่ 5 มีนาคม 1993 ที่ได้เซ็นสัญญากับปีศาจแดงในวันที่ 21 มิถุนายน 2018 เป็นเวลา 5 ปี และสัญญานี้สามารถขยายได้อีก 1 ปี

Fred หรือ Frederico Rodrigues de Paula Santos เกิดเมื่อวันที่ 5 มีนาคม 1993 ที่ประเทศบราซิล เขาเริ่มต้นอาชีพค้าแข้งกับสโมสรอินเตอร์นาซิอองนาล บราซิลในปี 2011 ก่อนจะย้ายไปเล่นฟุตบอลยุโรปกับชัคตาร์ โดเนตส์คในปี 2013 และสร้างชื่อในฐานะกองกลางที่เป็นกำลังหลักของทีม เขาเปิดตัวกับสโมสรยูเครน โดยยิงได้ 2 ประตูช่วยให้ทีมคว้าชัย Chornomorets Odesa ไป 3-1 ใน Ukrainian Super Cup แม้ว่าตำแหน่งของเขาจะไม่ใช่ผู้ทำประตูสูงสุดก็ตาม

ตลอด 5 ฤดูกาลที่เล่นกับชัคตาร์ โดเนตส์ค เฟร็ดโชว์ฟอร์มได้อย่างเหนือชั้น ด้วยเหตุนี้ เขาจึงถูกเรียกติดทีมชาติบราซิลในปี 2014 และเป็นส่วนหนึ่งของทีมโคปา อเมริกา ในชิลี และฟุตบอลโลก 2018 เขายังมีชื่ออยู่ในทีมชุดลุยศึกรัสเซียอีกด้วย น่าเสียดายที่อาการบาดเจ็บทำให้เขาไม่ได้อยู่ในทีมแม้แต่นาทีเดียว

และเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2018 เขาก็ถูกแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ดึงตัวไปร่วมทีม โดยเซ็นสัญญากับปีศาจแดงเป็นเวลา 5 ปี ซึ่งในสัญญาสามารถขยายได้อีก 1 ปี โดยประเดิมสนามในลีกอังกฤษตั้งแต่เกมแรกของฤดูกาล 2018-2019 ในเกมเปิดบ้านเอาชนะเลสเตอร์ ซิตี้ 2-1

ในปี 2018-2023 ลงเล่นให้แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดในพรีเมียร์ลีกรวมทั้งหมด 105 นัด ทำประตูได้ทั้งหมด 6 ประตูด้วยกัน อีกทั้งยังลงเล่นให้กับทีมชาติบราซิลในปี 2014-2022 ลงเล่นรวม 27 นัดไม่สามารถทำปรตูได้

เฟร็ดเริ่มเล่นฟุตบอลตั้งแต่ยังเป็นเด็ก

เขาเริ่มฝึกแบ็คซ้ายกับ Atletico Mineiro ตั้งแต่อายุ 10 ขวบ ก่อนจะย้ายไปที่ Porto Alegre ในปี 2009 ซึ่งเขาได้รับการเลื่อนตำแหน่ง ไปรับบทบาทเพลย์เมกเกอร์ตามรอยสองไอดอลอย่าง โรนัลดินโญ่ และ ซีเนดีน ซีดาน ในอีก 2 ปีต่อมา อินเตอร์เนชั่นแนลดึงตัวไปร่วมทีม

และในการเล่นในฤดูกาลแรกของเขาเขามีส่วนสำคัญในการพาอินเตอร์นาซิอองนาลคว้าแชมป์ลีกด้วยการลงเล่น 28 นัดยิงได้ 6 ประตู เขาเล่นไปเพียง 5 เกมในฤดูกาลถัดมาก่อนที่จะถูกชัคตาร์ โดเนตส์คคว้าตัวไปในราคา 15 ล้านยูโร

Shakhtar เมื่อย้ายไปยังเวทียุโรปของแซมบ้า

ไม่ว่าจะเป็นแฟร์นันดินโญ่ ดักลาส คอสต้า เบอร์นาร์ด ไทสัน วิลเลี่ยน หลุยส์ อาเดรียโน่ จาดสัน อเล็กซ์ เตเซร่า ฯลฯ ชื่อเหล่านี้คือแข้งแซมบ้าที่เคยเล่นให้กับชัคตาร์ โดเนตส์ค ทีมดังในลีกยูเครนด้วยกัน ซึ่งเฟร็ดเป็นหนึ่งในนั้นที่เขาถูกดึงตัวไปร่วมทีมแทน แฟร์นานดินโญ่ ที่ย้ายไปเล่นให้กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในปี 2013 เขาเล่นเป็นกำลังหลักโดยลงเล่นในเมทาลิส สเตเดี้ยม ลงเล่น 155 เกม ยิงได้ 14 ประตูในทุกรายการ , กวาดแชมป์ลีก 3 สมัย, บอลถ้วยอีก 3 สมัย และซูเปอร์คัพ 4 สมัย

พอกันทีกับ “แซมบ้าเซินเจิ้น”

เฟร็ดไม่ค่อยได้รับโอกาสเล่นฟุตบอล ซึ่งตอนขาลงก็ทำผลงานได้ไม่ดีเท่าที่ควร จนถูกแฟนบอลตำหนิว่าเป็น “แซมบ้า เสิ่นเจิ้น” ทว่าในเดือนตุลาคม 2019 เฟร็ดได้รับโอกาสลงสนามเป็นตัวจริงในเกมดังกล่าว และแพ้ให้กับนิวคาสเซิ่ล 0-1 หลังจากนั้นเขาได้เล่นเต็ม 90 นาทีในเกมลีกทั้งหมด

เฟร็ดเริ่มแสดงพลังอย่างเต็มที่เมื่อจับคู่กับสก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ โดยสลับขึ้น ๆ ลง ๆ ระหว่างเฟร็ดกับแม็คโทมิเนย์ ช่วยให้เกมแดนกลางของแมนฯยูดูดีมีทรงมากขึ้น แม้แม็คโทมิเนย์คู่หูแดนกลางจะบาดเจ็บ แต่มิดฟิลด์รายนี้ก็สามารถสร้างความประทับใจได้มากกว่าในฤดูกาลแรกที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ด้วยทักษะที่มีความมั่นใจมากขึ้น เฟร็ดได้กลายเป็นกองกลางที่ขาดไม่ได้สำหรับปีศาจแดง

เฟร็ด ประวัติ ผลงาน

เฟร็ดชนะใจแฟน ๆ ด้วยผลงานอันร้อนแรงคุมแดนกลางให้กับทีม

แฟนบอลยูไนเต็ดอาจเห็นด้วยว่าเฟร็ดกองกลางชาวบราซิลยังสามารถทำผลงานได้ดีเมื่อเขาได้ลงเล่นสม่ำเสมอ เขาอยู่ในฟอร์มที่ดีใน Shakhtar Donetsk ในฤดูกาลนี้ เขาทำผลงานได้ดีตอนที่เล่นให้ชัคตาร์ โดเนตส์คเป็นประจำ เพราะกองกลางคนอื่นอาจผลัดกันรับบาดเจ็บ ขาโชว์ผลงานโดดเด่นในการซ้อนพื้นที่เพื่อนร่วมทีม พลิกบอลไปข้างหน้า ทั้งบอลสั้นและบอลยาว รวมถึงการแย่งบอลซึ่งเป็นจุดเด่นของเขา

การปรับตัวกับฟุตบอลอังกฤษ

ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดของเฟร็ดตั้งแต่เข้าร่วมฤดูกาลที่แล้วคือการรับมือกับความเร็วของพรีเมียร์ลีก แต่เมื่อเขาเล่นไปเรื่อย ๆ เขาเริ่มปรับจังหวะการเล่นของตัวเองและเล่นบอลขึ้นไปข้างหน้า ดึงจังหวะส่งบอลให้เพื่อนได้เปรียบ และยังประสานงานได้ดีกับผู้เล่นแนวรับและแนวรุกอีกด้วย ในความโชคร้ายของทีมมีมิดฟิลด์อีกคนได้รับบาดเจ็บ เป็นโชคดีของเฟร็ด ที่ได้เวลาลงสนามพิสูจน์ตัวเองมากขึ้น

การแย่งบอลและเล่นบอลสอง

จุดเด่นของเฟร็ดคือการอ่านจังหวะสกัดกั้นและเล่นบอลแรกก่อนที่คู่แข่งจะได้เปรียบ ซึ่งก่อนหน้านี้เขาเคยทำได้บ่อยมาก แต่มีปัญหาในการยิงครั้งต่อไปหรือลูกที่สอง หลังจากจับบอลได้ แต่ระยะหลัง เขานิ่งขึ้น มีเวลาเก็บบอลไว้กับตัว แก้เพรส และเลือกส่งบอล เพื่อให้เพื่อนได้เปรียบมากกว่าเดิม บวกกับการได้เล่นกับ ฆวน มาต้า และ บรูโน่ เเฟร์นันด์ส จากการตามแย่งบอลในเกมล่าสุด ปอล ป็อกบา และสกอตต์ แม็คโทมิเนย์ น่าจะทำให้กองกลางของยูไนเต็ดมีมีมิติที่หลากหลายเพิ่มเป็นทวีคูณ และน่าติดตามเป็นอย่างยิ่ง

การเติมขึ้นไปเล่นเกมรุก

งานหลักของ เฟร็ด คือการควบคุมกองกลาง และคอยต่อบอลจากแดนกลางไปแดนหน้า มีหลายครั้งที่ทีมเล่นเกมรุก เขามักจะอยู่หน้ากรอบเขตโทษของคู่แข่งเพื่อส่งบอล แต่ด้วย Martial คนเดียวและไม่ได้เคลื่อนไหวมากนัก ทำให้เขาตะลึงงัน ทำให้เกมรุกของยูไนเต็ดต้องขึ้นไปทางริมเส้นเป็นหลักพร้อมกับการตั้งรับในบางจังหวะก็มีช็อตน่ารัก ๆ ให้ตั้งตารอ ให้แข้งแซมบ้า เลือกลองยิงเอง เมื่อมาถึงจุดนี้ เฟร็ด ต้องปลดล็อกในแถวที่สอง เพราะหากยิ่งเพิ่มคุณภาพให้เปล่งประกายมาแต่ไกลก็จะยิ่งเพิ่มความมั่นใจให้กับตัวเอง และกลายเป็นมิดฟิลด์ตัวกลางที่ปีศาจแดงหวังได้ยาว ๆ โดยไม่ต้องกังวลกับฟรีคิกและลูกเตะมุมของเฟร็ด บอลโค้งจากเท้าซ้ายของเขาเริ่มกดดันกองหลังคู่ต่อสู้ได้ดีขึ้น

แต่เหนือสิ่งอื่นใด ฟุตบอลไม่ได้เล่นคนเดียว ฟุตบอลเป็นกีฬาที่เล่นเป็นทีม เฟร็ดอาจทำได้ดีกว่านี้ แต่เพื่อนคนอื่น ๆ ต้องงัดฟอร์มที่ดีที่สุดออกมายกทีมกันแท็กติกของโซลต้องพัฒนาไปตามสถานการณ์ไม่ใช่แค่แผนเดียวต้องมีแผนสำรอง และการเล่นที่หลากหลายจะเป็นสิ่งสำคัญสำหรับทีมในการจบฤดูกาลนี้ให้อยู่ในใจแฟน ๆ แม้ว่ามันจะห่างจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่เราคุ้นเคยก็ตาม